ทำไม SEAProTI ไม่ขึ้นทะเบียนล่ามที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานราชการ: มุมมองด้านกฎหมาย มาตรฐานวิชาชีพ และความน่าเชื่อถือ
- Wanitcha Sumanat
- 14 ก.ย.
- ยาว 1 นาที

ประเด็นการรับรองล่ามในประเทศไทยเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเกี่ยวข้องกับสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนในการเข้าถึงความยุติธรรมและการสื่อสารที่ถูกต้อง โดยสมาคมวิชาชีพนักแปลและล่ามแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asian Association of Professional Translators and Interpreters – SEAProTI) ยืนยันหลักการไม่ขึ้นทะเบียน “ล่ามที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานราชการ” หากบุคคลดังกล่าวไม่ได้ผ่านกระบวนการสอบและประเมินความสามารถตามมาตรฐานของสมาคม
1. เหตุผลด้านกฎหมายและนิยาม (Legal & Terminology Concerns)
ประการแรก ปัญหาสำคัญคือสถานะทางกฎหมายของ “ล่ามที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานราชการ” ในประเทศไทย ซึ่งหมายถึงบุคคลที่ยื่นเอกสารเพื่อลงทะเบียนในรายชื่อของหน่วยงานราชการเพื่อให้เรียกใช้ในคดีบางประเภท โดยเฉพาะคดีอาญาที่ไม่ซับซ้อน หรือในกรณีที่ผู้ต้องหาไม่มีเงินจ้างล่ามส่วนตัว (สำนักงานศาลยุติธรรม, 2566) การขึ้นทะเบียนดังกล่าวไม่ได้เป็นการรับรองความรู้ความสามารถทางภาษาและกฎหมายอย่างเป็นระบบ และไม่ได้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เช่น ISO 13611:2014 หรือ ASTM F2089-15 ที่ใช้สำหรับการรับรองล่าม (ISO, 2014; ASTM, 2015)
หากสมาคมรวมล่ามที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานราชการไว้ในระบบเดียวกัน อาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าบุคคลเหล่านี้ได้รับการรับรองความสามารถในระดับเดียวกับล่ามที่ผ่านการสอบของ SEAProTI ซึ่งจะสร้างความสับสนทางกฎหมายและบั่นทอนความเชื่อมั่นของระบบรับรอง
2. เหตุผลด้านมาตรฐานวิชาชีพ (Professional Standards)
SEAProTI วางเกณฑ์คัดเลือกที่เข้มงวด โดยใช้การสอบรับรอง C1–C3 ที่ประเมินทั้งความรู้ภาษา ความเข้าใจด้านกฎหมาย จริยธรรมวิชาชีพ และการจำลองสถานการณ์การล่าม (SEAProTI, 2025) นอกจากนี้ สมาชิกยังต้องสะสมชั่วโมงการพัฒนาวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง (CPD) ทุกปีเพื่อรักษาสถานะการรับรอง
สมาคมยังมีกลไกกำกับดูแลและบทลงโทษสำหรับกรณีที่สมาชิกทำผิดจรรยาบรรณ ซึ่งเป็นสิ่งที่ระบบของหน่วยงานรัฐยังไม่พัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม (NAJIT, 2022)
3. เหตุผลด้านความเป็นอิสระและความน่าเชื่อถือ (Independence & Credibility)
การที่ SEAProTI ดำเนินการขึ้นทะเบียนโดยอิสระจากหน่วยงานรัฐ ช่วยรักษาหลักการรับรองโดยวิชาชีพเอง (peer-certified) และป้องกันไม่ให้สมาคมถูกมองว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของระบบราชการ (Chesterman, 2009) การรักษาความเป็นอิสระเป็นสิ่งสำคัญต่อการสร้างความเชื่อมั่นในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในคดีที่เกี่ยวข้องกับนักลงทุนต่างชาติและองค์กรระหว่างประเทศ
4. การเปิดโอกาสให้เข้าสู่มาตรฐานเดียวกัน
สมาคมไม่ได้ปิดกั้นล่ามที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานราชการ แต่เปิดให้สมัครสอบเพื่อยกระดับมาตรฐานเข้าสู่ระบบรับรองเดียวกัน และสามารถใช้ตรารับรอง (SEAProTI Certified Seal) ได้อย่างถูกต้องเมื่อผ่านเกณฑ์ (SEAProTI, 2025) แนวทางนี้สอดคล้องกับหลักการความเท่าเทียมในการเข้าถึงอาชีพและการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค
สรุป
การไม่ขึ้นทะเบียนล่ามที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานราชการโดยอัตโนมัติเป็นการคงไว้ซึ่งมาตรฐานวิชาชีพ ความน่าเชื่อถือ และการคุ้มครองสาธารณะ SEAProTI ยึดมั่นในระบบที่อิงผลสอบ (merit-based system) การกำกับจริยธรรม และการพัฒนาวิชาชีพต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้บริการได้รับการล่ามที่มีคุณภาพและเป็นไปตามมาตรฐานสากล
เอกสารอ้างอิง
ASTM International. (2015). ASTM F2089-15: Standard Practice for Language Interpreting. West Conshohocken, PA: ASTM.
Chesterman, A. (2009). The ethics of translation. Translation Studies, 2(2), 147–160.
ISO. (2014). ISO 13611:2014 Interpreting – Guidelines for community interpreting. Geneva: International Organization for Standardization.
NAJIT. (2022). Code of Ethics and Professional Responsibilities. National Association of Judiciary Interpreters and Translators.
SEAProTI. (2025). Certification Handbook and Membership Standards. Bangkok: SEAProTI.
สำนักงานศาลยุติธรรม. (2566). แนวทางการใช้ล่ามในคดีอาญา. กรุงเทพฯ: ศาลยุติธรรม.




ความคิดเห็น