ความผิดพลาดในการทำงานของล่ามศาลไทย: การวิเคราะห์เชิงวิชาการด้านภาษาและกระบวนการยุติธรรม
- Wanitcha Sumanat
- 14 ก.ย.
- ยาว 2 นาที

14 กันยายน 2568, กรุงเทพมหานคร - บทบาทของล่ามศาลถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการคุ้มครองสิทธิของคู่ความและพยานในกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะในกรณีที่คู่ความไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาของศาลได้ (Berk-Seligson, 2009) หากการล่ามผิดพลาด ไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่ ย่อมส่งผลโดยตรงต่อสิทธิในกระบวนการยุติธรรมและอาจทำให้คำพิพากษาขาดความเป็นธรรม การศึกษาความผิดพลาดของล่ามจึงเป็นทั้งประเด็นทางภาษาศาสตร์ กฎหมาย และสิทธิมนุษยชน
1. การแปลผิดความหมาย (Mistranslation of Meaning)
ความผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดคือการใช้คำศัพท์ทางกฎหมายผิดความหมาย เช่น
Legal Representatives ซึ่งควรหมายถึง “ผู้แทนทางกฎหมาย” แต่กลับถูกแปลเป็น Litigators หรือ “นิติกรณ์”
To be eligible (มีคุณสมบัติ/สิทธิ) ถูกแปลผิดเป็น to legitimate (ทำให้ถูกกฎหมาย)
Scope of work ถูกแปลเป็น “cover the business” ซึ่งไม่สอดคล้องกับความหมาย “ขอบข่ายงาน”
Professional and fair กลายเป็น “มืออาชีพและดี” แทนที่จะเป็น “มืออาชีพและเป็นธรรม”
ข้อผิดพลาดเหล่านี้อาจเปลี่ยนสาระสำคัญของคดีและทำให้ศาลตีความสถานะทางกฎหมายของคู่ความผิดพลาด (Hale, 2004)
2. การแปลเกิน (Addition / Over-interpretation)
การเพิ่มถ้อยคำที่ไม่ได้อยู่ในต้นฉบับเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อการรับรู้ของศาล ตัวอย่างเช่น พยานกล่าวว่า “ไม่มีหลักฐานเพิ่มเติม” แต่ล่ามแปลว่า “เป็นคำกล่าวอ้างของพยานเองว่าไม่มีหลักฐานเพิ่ม” การใส่คำว่า “คำกล่าวอ้าง” เปลี่ยนจากการบอกเล่าข้อเท็จจริงเป็นการปฏิเสธ ทำให้ศาลอาจมองว่าพยานมีเจตนาปกปิด (Mikkelson, 2017)
3. การแปลตัดหรือแปลตก (Omission)
การละคำสำคัญแม้เพียงเล็กน้อยอาจส่งผลกระทบต่อความหมาย เช่น
Legal rights and duties ถูกแปลเพียง “สิทธิและหน้าที่” โดยละคำว่า “ทางกฎหมาย”
Due process of law ถูกแปลเป็น “กระบวนการ” โดยละคำว่า “ทางกฎหมาย” ทำให้สูญเสียความหมายทางกฎหมายที่ชัดเจน
การละเช่นนี้ทำให้การรับรู้ของศาลไม่ครบถ้วนและลดความน่าเชื่อถือของคำเบิกความ (Morris, 2010)
4. การแปลเนื้อหานำ (Leading Interpretation)
ล่ามอาจปรับคำถามโดยไม่ตั้งใจจนกลายเป็นคำถามนำ ตัวอย่างเช่น
คำถามต้นฉบับ: “Did you see the defendant on the night of the incident?”
คำแปล: “คุณยืนยันใช่หรือไม่ว่าเห็นจำเลยในคืนเกิดเหตุ”
การเปลี่ยนรูปคำถามให้เป็นคำถามนำอาจชี้นำพยานและมีผลต่อการรับฟังพยานหลักฐาน (Cotterill, 2002)
5. ล่ามตอบแทนเองเหมือนทนาย (Answering Instead of Interpreting)
ความผิดพลาดร้ายแรงที่สุดคือการที่ล่ามตอบเองแทนพยาน ตัวอย่างเช่น
พยานตอบว่า: “I don’t remember.”
ล่ามแปลว่า: “พยานปฏิเสธที่จะตอบ”
การแปลเช่นนี้ละเมิดหลักความเป็นกลาง (neutrality) และอาจทำให้พยานถูกมองว่า “ปิดบังข้อเท็จจริง” (Hertog, 2016)
6. ผลกระทบทางกฎหมายและจริยธรรม
ข้อผิดพลาดในการล่ามส่งผลโดยตรงต่อสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ได้แก่
สิทธิในการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม (Fair Trial) ตาม ICCPR มาตรา 14
หลักความเป็นกลางของล่าม ตามประมวลจริยธรรมของล่ามศาลสากล (AIIC, 2020)
หากล่ามไม่สามารถรักษาความถูกต้องและความเป็นกลางได้ อาจทำให้กระบวนการยุติธรรมบิดเบือนและนำไปสู่การกลับคำพิพากษาหรือการร้องเรียนเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน
สรุป
ข้อผิดพลาดของล่ามศาลแบ่งได้เป็น 5 ประเภทหลัก ได้แก่ การแปลผิดความหมาย การแปลเกิน การแปลตัด/ตก การแปลเนื้อหานำ และการตอบแทนเองเหมือนทนาย ข้อผิดพลาดเหล่านี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อความถูกต้องของการสื่อสาร แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อสิทธิในกระบวนการยุติธรรมของคู่ความ การพัฒนาระบบการอบรม การประเมินคุณภาพ และการกำกับจริยธรรมของล่ามศาลอย่างเข้มงวดจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อคุ้มครองสิทธิของประชาชนและรักษามาตรฐานกระบวนการยุติธรรม
เอกสารอ้างอิง
AIIC. (2020). AIIC Code of Ethics. International Association of Conference Interpreters.
Berk-Seligson, S. (2009). Coerced confessions: The discourse of bilingual police interrogations. Berlin: Mouton de Gruyter.
Cotterill, J. (2002). Language in the legal process. Palgrave Macmillan.
Hale, S. (2004). The discourse of court interpreting: Discourse practices of the law, the witness, and the interpreter. Amsterdam: John Benjamins.
Hertog, E. (2016). Linking to standards of justice: Quality of legal interpreting in the EU. Antwerp: Lessius.
Mikkelson, H. (2017). Introduction to court interpreting. Routledge.
Morris, R. (2010). Court interpreting and legal translation: A coursebook. Routledge.




ความคิดเห็น